• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


Content ID.📢 C18A3 ชนิดของโครงสร้างรองรับในงานวิศวกรรม: คุณลักษณะและก็จุดเด่นข้อบกพร่อง

Started by kaidee20, May 12, 2025, 04:12 PM

Previous topic - Next topic

kaidee20

โครงสร้างรองรับ (Foundation) คือส่วนที่สำคัญที่สุดของโครงสร้าง เนื่องด้วยเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักแล้วก็ถ่ายโอนแรงทั้งหมดทั้งปวงจากองค์ประกอบข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินด้านล่าง การเลือกจำพวกของฐานรากที่เหมาะสมกับลักษณะส่วนประกอบและก็สภาพดินเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ส่วนประกอบมีความยั่งยืนและมั่นคงรวมทั้งไม่เป็นอันตราย ในบทความนี้ พวกเราจะมาเจาะลึกถึงประเภทของรากฐาน คุณลักษณะ ข้อดี และก็จุดด้วยของแต่ละจำพวก เพื่อช่วยทำให้เข้าใจและก็เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะควร



📌✨👉ประเภทของโครงสร้างรองรับ

รากฐานสามารถแบ่งออกได้เป็นสองจำพวกหลัก คือ รากฐานตื้น (Shallow Foundation) แล้วก็รากฐานลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองแบบมีความต่างกันในด้านขององค์ประกอบ การออกแบบ รวมทั้งการประยุกต์ใช้

1. โครงสร้างรองรับตื้น (Shallow Foundation)
โครงสร้างรองรับตื้นเป็นฐานรากที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน และก็เหมาะสำหรับโครงสร้างที่น้ำหนักไม่มากหรือสภาพดินมีความแข็งแรงเพียงพอ รากฐานชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ในส่วนประกอบทั่วๆไป ได้แก่ บ้านพักอาศัย อาคารขนาดเล็ก และก็งานก่อสร้างที่ไม่สลับซับซ้อน

-------------------------------------------------------------
เสนอบริการ เจาะสํารวจดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ Boring Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

ตัวอย่างของฐานรากตื้น
-โครงสร้างรองรับแผ่ (Spread Footing): เป็นรากฐานที่มีการกระจัดกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบในพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับอาคารที่มีคานและเสาสร้างบนพื้นผิวที่แข็งแรง
-โครงสร้างรองรับแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักค่อยหรือองค์ประกอบที่มีลักษณะเป็นแถวยาว
-ฐานรากแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับองค์ประกอบที่ปรารถนากระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ ได้แก่ อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน

จุดเด่นของโครงสร้างรองรับตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับฐานรากลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายแล้วก็เร็ว
-เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง

ข้อผิดพลาดของโครงสร้างรองรับตื้น
-ไม่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนสภาพ
-ไม่สามารถที่จะรองรับโครงสร้างที่มีน้ำหนักมากได้

2. รากฐานลึก (Deep Foundation)
รากฐานลึกถูกดีไซน์มาเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักของโครงสร้างไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้ผิว เหมาะกับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง

แบบอย่างของรากฐานลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะสำหรับองค์ประกอบขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินรวมทั้งเทคอนกรีตลงไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้เสาเข็มตอกได้
-ฐานรากเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในส่วนประกอบที่ต้องการกระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการยุบ

ข้อดีของฐานรากลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างขนาดใหญ่ได้
-เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการยุบ
-เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืนให้กับโครงสร้างในสภาพแวดล้อมที่มีการเสี่ยง

ข้อตำหนิของฐานรากลึก
-ค่าใช้สอยสูงยิ่งกว่าฐานรากตื้น
-ใช้เวลาและก็เคล็ดลับเฉพาะในการก่อสร้าง
-จำต้องอาศัยการสำรวจดินให้ละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้น

🦖🎯✅การเลือกโครงสร้างรองรับที่สมควร

การเลือกชนิดของฐานรากขึ้นกับหลายปัจจัย ดังเช่นว่า น้ำหนักของส่วนประกอบ ภาวะดิน รวมทั้งสภาพแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินรวมทั้งเลือกโครงสร้างรองรับได้อย่างเหมาะสม โดยกรรมวิธีเลือกมีดังนี้:

การประมาณน้ำหนักส่วนประกอบ:
จำเป็นต้องคิดถึงน้ำหนักของโครงสร้างแล้วก็การใช้งาน ดังเช่นว่า อาคารพักอาศัย โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์สภาพดิน:
กระทำเจาะตรวจสอบดินแล้วก็ทดลองคุณสมบัติของดิน ดังเช่น ความแน่น ความแข็งแรง แล้วก็การซึมผ่านของน้ำ
สิ่งแวดล้อม:
พิเคราะห์สาเหตุที่บางทีอาจมีผลต่อฐานราก เช่น แรงสั่น น้ำท่วม หรือดินกระหน่ำ
ความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ:
เลือกรากฐานที่สามารถรองรับในสิ่งที่ต้องการและงบประมาณ

🎯📌🌏แบบอย่างการใช้แรงงานในงานก่อสร้าง

ที่อยู่อาศัย:
ใช้โครงสร้างรองรับแผ่หรือรากฐานแถบ เนื่องด้วยน้ำหนักของส่วนประกอบไม่มากมาย และภาวะดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักของส่วนประกอบแล้วก็เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืน
สะพาน:
ใช้ฐานรากเสาเข็มลึกเพื่อกระจายน้ำหนักของโครงสร้างไปยังชั้นดินป้อมปราการอาจจะ
โรงงานหรือโกดัง:
ใช้ฐานรากแผ่นหรือเสาเข็มตามลักษณะของน้ำหนักบรรทุกและสภาพดิน

⚡📌👉บทสรุป

การเลือกจำพวกของฐานรากที่เหมาะสมนับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนและความปลอดภัยให้กับองค์ประกอบ รากฐานตื้นเหมาะกับโครงสร้างขนาดเล็กและดินที่มีความแข็งแรง ในตอนที่โครงสร้างรองรับลึกเหมาะสำหรับองค์ประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์ภาวะดินแล้วก็การออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้โครงการก่อสร้างเสร็จได้โดยสวัสดิภาพรวมทั้งจีรังยั่งยืน

วิธีการทำความเข้าใจข้อดีขอเสียของโครงสร้างรองรับแต่ละประเภทจะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจเลือกฐานรากได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวของส่วนประกอบในระยะยาว
Tags : ข้อมูลเจาะสํารวจดิน ทั่วประเทศ